อุทยานฯ น้ำหนาว ต้อนรับผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ ลงพื้นที่สำรวจแหล่งท่องเที่ยว "เลยดั้น" และ "ถ้ำใหญ่น้ำหนาว"

วันที่ 21 ธันวาคม 2567 เวลา 08.00 น. นายสมเกียรติ กาติ๊บ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว และเจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับนายศรัณยู มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยนายสมพงษ์ หอมสนิท ปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์ นายธีรศักดิ์ ศรีสมพงษ์ นายอำเภอน้ำหนาว และคณะ ตรวจเยี่ยมพื้นที่และสถานที่ท่องเที่ยว อ.น้ำหนาว เลยดั้น" ลานหินมหัศจรรย์ และถ้ำใหญ่น้ำหนาว ต.หลักด่าน อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ เพื่อมอบนโยบายแก่ผู้เกี่ยวข้องในการส่งเสริมการท่องเที่ยว และดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว พร้อมกับนำมาวางแนวทางในการพัฒนาให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

" เลยดั้น " หรือลานหินเลยดั้น ตั้งอยู่ที่บ้านห้วยกะโปะ หมู่ 6 ตำบลหลักด่าน อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ มีลักษณะเป็นลานหินทรายขนาดใหญ่ขวางลำน้ำ คล้ายสะพานหินข้ามแม่น้ำ บริเวณลานหินเต็มไปด้วยหลุมบ่อขนาดใหญ่-เล็ก ลึกลงไปในเนื้อหินคล้ายหลุมขนมครก ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของสายน้ำนานกว่า 100 ปี โดยลักษณะการกัดกร่อนของชั้นหินทรายนี้ มีชื่อเรียกทางวิชาการว่า กุมภลักษณ์ (Potholes) สามารถเห็นการกัดกร่อนได้ถึง 5 แบบ คือ แบบวงกลม แบบวงรี แบบเสาหิน แบบสะพานหิน และแบบกัดเซาะด้านข้าง นับเป็นความแปลกพิสดารและความสวยงามที่ธรรมชาติได้สร้างขึ้น








นอกจากนี้ สิ่งที่เป็นความมหัศจรรย์อีกหนึ่งอย่างของเลยดั้น คือ การวางตัวของชั้นหินทราย จะเป็นการวางชั้นหินหันเข้าหาด้านต้นน้ำ น้ำที่ไหลลงมาตามชั้นหินเกิดการมุดตัวลงไปใต้ผิวดินหรือชั้นหิน แล้วไหลไปออกยังที่ต่ำกว่าที่อยู่ไกลออกไปทางปลายน้ำ ทำให้ดูเหมือนว่าสายน้ำในฤดูแล้งขาดหายไปเป็นช่วง ๆ จึงเป็นที่มาของชื่อ เลยดั้นนั่นเอง ความสวยงามของลานหินเลยดั้นจะเห็นได้ชัดในช่วงฤดูแล้งที่ไม่มีน้ำท่วมสูง ประมาณเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม เพราะลานหินจะโผล่พ้นน้ำขึ้นมาชัดเจน นักท่องเที่ยวสามารถลงไปถ่ายภาพเก็บความประทับใจกันได้

"ถ้ำใหญ่น้ำหนาว" หรือ "ถ้ำน้ำริน" หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ ลักษณะเป็นถ้ำเขาหินปูนขนาดใหญ่ มีน้ำไหลหรือน้ำรินออกมาจากปากถ้ำทำให้กลายเป็นที่มาของชื่อน้ำริน ปากถ้ำอยู่สูงจากพื้นประมาณ 10 เมตร กว้างประมาณ 2 เมตร  ภายในถ้ำมีเส้นทางเดินเล็กๆ และบางช่วงเป็นทางเดินยกระดับและขั้นบันไดเพื่อความสะดวกในการเที่ยวชมและเพื่อป้องกันผลกระทบอันอาจเกิดขึ้นกับความยิ่งใหญ่ของประติมากรรมธรรมชาติแต่แสนจะเปราะบาง อันได้แก่ หินงอก หินย้อย และเสาหิน ที่เรียงตัวกระจายไปตามโถงถ้ำและคูหาต่างๆ ภายในถ้ำยังมีฝูงค้างคาวจำนวนมากที่ได้อาศัยความยิ่งใหญ่ของโถงถ้ำใหญ่น้ำหนาวแห่งนี้

นอกจากนี้ บนภูเขายังปรากฏซากฟอสซิลหอยชนิดต่าง ๆ  ปะการัง และฟิวซูลินิด (Fusulinids) ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวที่เคยอาศัยอยู่ในทะเลบนโลกในช่วงเวลาต่าง ๆ แต่ได้สูญพันธุ์ไปหมดแล้ว ฟอสซิลฟิวซูลินิดที่เขาถ้ำใหญ่น้ำหนาวแห่งนี้มีหลายชนิดหลายขนาด ซึ่งเป็นหลักฐานแสดงวิวัฒนาการของเปลือกโลกในยุคเพอร์เมียน (280-240 ล้านปี) ได้อย่างครบถ้วน ด้วยความมหัศจรรย์ดังกล่าวจังหวัดเพชรบูรณ์ จึงคัดเลือกให้เป็นอุทยานธรณีเพชรบูรณ์ (Phetchabun Geopark) เพื่อส่งเสริมพัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวทางธรณีวิทยาที่มีคุณค่า อันเป็นสมบัติอันล้ำค่าของจังหวัดเพชรบูรณ์และของไทย