จับก่อนล่า ชายลอบเข้าพื้นที่ป่าอนุรักษ์ พร้อมอาวุธปืน หลังมีประกาศปิดป่า
จนกระทั่งเวลาประมาณ 13.56 น. ขณะตรวจลาดตระเวนมาถึงทางเข้าห้วยน้ำขุ่น ท้องที่บ้านสามร้อยเมตร หมู่ที่ 12 ตำบลท่าปลา อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ ในเขตอุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน พบชาย 1 ราย นั่งอยู่บนเปลนอน มีปืนลูกซองยาวอยู่ด้านขวามือ คณะเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนเข้าทำการจับกุม ทราบชื่อนายสมนึกฯ อายุ 51 ปี อยู่หมู่ที่ 12 ตำบลท่าปลา อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมของกลางจำนวน 7 รายการ ประกอบด้วย
1. อาวุธปืนลูกซองยาว ไม่มีหมายเลขทะเบียน จำนวน 1 กระบอก
2. กระสุนปืนลูกซอง ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 16 นัด
3. ปลอกกระสุนลูกซอง ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 5 ปลอก
4. กล้องเล็ง จำนวน 1 กล้อง
5. ไฟฉายแบบคาดหัว จำนวน 1 อัน
6. เปลนอน จำนวน 1 ผืน
เจ้าหน้าที่จึงได้จัดทำบันทึกตรวจยึดจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ฐานความผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 พ.ร.บ.อาวุธปืน และเครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าปลา ดำเนินคดีตามกฎหมาย ตามปจว.ข้อ 4 คดีอาญาที่ 29/2567 ยึดทรัพย์ที่ 18/2567 ลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 20.37 น.
หัวหน้าอุทยานฯ ลำน้ำน่าน เผยเพิ่มเติมว่า ในช่วงสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน อุทยานฯ ลำน้ำน่าน มีประกาศปิดป่า ห้ามมิให้บุคคลใดเข้าไปในพื้นที่อุทยานฯ ลำน้ำน่าน ในท้องที่ ต.ผาเลือด ต.จริม ต.นางพญา ต.น้ำหมัน ต.ท่าปลา อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ ท้องที่ ต.แสนตอ ต.ท่าแฝก อ.น้ำปาด จ.อุตรติตถ์ และท้องที่ ต.ป่าแดง ต.ช่อแฮ ต.สวนเขื่อน อ.เมือง จ.แพร่ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์ไฟป่าจะคลี่คลาย หากผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท และหากผู้ใดจุดไฟเผาป่า ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี ปรับตั้งแต่ 4 แสน ถึง 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งได้นำประกาศไปแจ้งในท้องที่และท้องถิ่น เพื่อให้ประชาชนรอบพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ได้รับทราบถึงมาตรการควบคุมไฟป่า