อุทยานฯ เขาค้อ เฝ้าระวังไฟป่า หวั่นปะทุขึ้นอีก หลังเข้าดับไฟด้วยความยากลำบาก ในพื้นที่สูงชัน
นายประสาน เอียดสังข์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาค้อ ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ ฯ เข้าตรวจสอบจุดความร้อน (Hotspot) ประจำวันที่ 28 มีนาคม 2566 รอบเวลา 01.43 น. พิกัด 0723464 E 1855977 N และรอบเวลา 12.54 น. พิกัด 723317 E 1855860 N ในท้องที่ ต.เเคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ (จุดความร้อนต่อเนื่อง) และเข้าดับไฟตั้งแต่เวลา 10.00 น. จนถึงเวลา 20.15 น. แต่ยังไม่สามารถควบคุมไฟได้ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นภูเขาหน้าผาสูงชันยากต่อการเข้าถึง ทำให้การดับไฟป่าเป็นไปได้ยากลำบาก ประกอบสภาพป่าเป็นป่าเบญจพรรณผสมป่าไผ่ที่ตายขุยทำให้มีเชื้อเพลิงในป่าสะสมปริมาณมากซึ่งทำให้ไฟไหม้ลุกลามรุนแรง เจ้าหน้าที่จึงเร่งทำแนวกันไฟในบริเวณที่สามารถเข้าถึงได้เพื่อลดความเสียหายของพื้นที่ เบื้องต้นพื้นที่เสียหายประมาณ 40 ไร่
ต่อมาในเช้าวันที่ 29 มีนาคม 2566 จุดความร้อนไม่ขึ้นแต่ไฟยังลุกไหม้อยู่ จึงได้ร่วมกันดำเนินการดับไฟตั้งแต่เวลา 08.00 น. ดับแล้วเสร็จเวลา 21.15 น. ชนิดป่าเบญจพรรณผสมป่าไผ่ พื้นที่เสียหายรวม ประมาณ 95 ไร่ สาเหตุเกิดจากเก็บหาของป่าและล่าสัตว์
ล่าสุดเช้าวันนี้ (30 มี.ค.66) หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาค้อ ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เฝ้าระวังอยู่ในพื้นที่ เพราะหวั่นว่าไฟป่าอาจปะทุขึ้นมาใหม่เมื่อมีอากาศร้อนในช่วงกลางวัน
สำหรับการจุดไฟเผาป่าในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ มีเริ่มตั้งแต่การตักเตือนจนถึงขั้นดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยบทลงโทษของบุคคลใดที่เผาป่าในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ หรือสวนรุกขชาติ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 4 แสนบาท ถึง 2 ล้านบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับตามมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562